ขายบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูก.com : Re: เห็นแล้วท้อแท้ครับ ทำไมเค้าไม่ทำบุหรี่ไฟฟ้าให้มันถูกกฎหมาย
ทำให้ถูกกฎหมายแล้วรัฐบาลมันจะกินอะไรหล่ะครับ ภาษียาสูบปีๆได้หลายหมื่นล้านนะครับ แถมถ้าท่านๆลดนิโคตินลงได้จนไปใช้ non กันหมดแบบผม แล้วรัฐท่านจะเก็บภาษีจากอะไรต่อหล่ะ 
สถิติของคนไทยที่ติดบุหรี่ว่ามีเพียง 3 คนใน 10 คนเท่านั้นที่เลิกสูบได้สำเร็จ และในผู้ที่เลิกสูบได้สำเร็จนั้นต้องตกเป็นทาสของการสูบบุหรี่โดยเฉลี่ยถึง 20 กว่าปี ที่เหลือติดบุหรี่ไปจนตาย
> เท่าที่ทราบคนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากกว่า 50% เลิกบุหรี่ได้จริง และสามารถเลิกได้แทบจะในทันทีที่ใช้ด้วยเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่มีใจที่อยากเลิกอยู่แล้ว แต่ยังติดในพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ใช่นิโคตินซะมากกว่า ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเติมเต็มในส่วนนั้นได้เป็นอย่างดีกว่าวิธีอื่น (ยาดม ยาอม ยาแปะ ลองมาหมดแล้วไร้สาระสิ้นดี)เรายังไม่มีข้อมูลว่าคนที่ติดนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า จะติดนานเท่าไร และเลิกยากเท่ากับการติดบุหรี่ทั่วไปหรือไม่
> อันนี้ก็ไม่มีข้อมูลเหมือนกันและไม่รู้ว่าเลิกยากกว่าหรือไม่ แต่เท่าที่รู้เคยลืมเอาบุหรี่ไฟฟ้าติดตัวไปด้วย 3 วัน 2 คืน มันไม่ทุรนทุรายเหมือนขาดบุหรี่เลย วันนั้นยังงงตัวเองเลยว่าทนได้อย่างไรแต่ปริมาณนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าที่มีมากกว่าบุหรี่ทั่วไปทำให้เราน่าจะสรุปได้ว่า อย่างน้อยที่สุดอำนาจการเสพติดของบุหรี่ไฟฟ้าก็ไม่น่าจะแตกต่างจากการเสพติพดบุหรี่หรือยาสูบทั่วไป
> เรื่องปริมาณนิโคตินเราไม่เถียงเพราะเราก็บอกเป็นตัวเลขเป๊ะๆให้ไม่ได้ แต่สารอื่นๆในควันบุหรี่หล่ะครับ ท่านว่ามันอันตรายน้อยกว่าหรืออย่างไรกัน การเสพติดการเลิกมันอยู่ที่ใจด้วยนะครับ การหักดิมที่สามารถทำได้น้อยมากๆอยางที่ท่านบอก 3% แต่บุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยให้ท่านสามารถค่อยๆเลิกได้อย่างเป็นสุขนะครับ ศึกษาบ้างก็ดีนะครับ อย่าสรุปแบบนั่งเทียนเขียนนักเลยนักวิจัยได้ศึกษาบุหรี่ไฟฟ้า 5 ยี่ห้อ ผลการวิจัยระบุว่า ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัย และยังมีแนวโน้มความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค และงานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารควบคุมยาสูบ “Tobacco Control”
> ถึงท่านจะบอกว่าไม่สามารถบอกว่ามันปลอดภัย แต่ท่านก็บอกมาอยางชัดเจนว่าอันตรายไม่ได้เหมือนกัน และทีมันมีแนวโน้มอยู่ว่าอันตรายเพราะมันก็มีนิโคตินไงครับ ถูกต้องไม่เถียงและสนับสนุนด้วย แต่ได้ลองสำรวจถึงเวลาที่ใช้แบบ non บางหรือไม่ และได้ลองเทียบอันตรายของสารต่างๆที่มีกับบุหรี่จริงหรือไม่ คำตอบคือไม่ทั้ง 2 กรณีส่วนประกอบต่างๆ ของบุหรี่ไฟฟ้า ได้แก่ Batteries, atomizers, cartridges, cartridge wrappers ในแพ็กเก็ตหรือหีบห่อ รวมถึงคู่มือการใช้งาน ไม่ได้ระบุข้อควรระวังและเตือนถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากสินค้าตัวนี้
> ก็ทำให้ถูกกฎหมายซิครับ จะได้ระบุข้อควรระวังต่างๆที่ท่านต้องการได้อย่างในบุหรี่ใน Cartridges ซึ่งเป็นที่เก็บนิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติดและสารเคมีที่เป็นอันตราย สามารถรั่วออกมาทางรอยต่อของอุปกรณ์บุหรี่ ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดได้รับอันตรายจากควันบุหรี่มือสอง
> เรื่องน้ำยาก็คงต้องยอมรับนะครับมันก็จริงของท่าน แล้วบุหรี่มันต่างกันตรงไหน ทั้งที่มีสารพิษมากกว่า ในควันบุหรี่มือสอง แถมเหม็นด้วยอีกต่างหากในบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการกำจัดสารพิษที่เหมาะสม เช่น ใน Cartridges ที่บรรจุนิโคตินผสมอยู่กับน้ำ เมื่อใช้แล้วก็ย่อมมีการปนเปื้อนของนิโคติน เมื่อนำไปทิ้งก็จะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
> แล้วก้นบุหรี่ 20 มวนต่อซองหล่ะครับมีการจัดเก็บ และกำจัดที่ปลอดภัยกว่าตรงไหน ไอ้สูบแล้วเขี่ยไปทั่วพอหมดมวนสูบเสร็จแล้วจะดีดก้นบุหรี่ทิ้งตรงไหนก็ได้นี้มันเหมาะสมแล้วใช่ไหมครับ อยากรู้ ไอ้ท่อน้ำทิ้งกับตามกระถางต้นไม้คือที่จัดเก็บที่เหมาะสมใช่หรือไม่ครับ ในป่าไฟมันไหม้เพราะบุหรี่เยอะนะครับถามเจ้าหน้าที่วนดูซิ ผมเที่ยวป่าบ่อยนะครับผู้บริโภคพึงระลึกว่า กระบวนการผลิต การควบคุมคุณภาพ การขาย การโฆษณา ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า ไม่ได้รับการควบคุมดูแลจากหน่วยงานอาหารและยาของรัฐบาล
> ก็ทำให้มันถูกกฎหมายซิครับ ท่านๆจะได้ควบคุมดูแลได้อย่างที่ต้องการงานวิจัยที่เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าล้วนเกิดขึ้นเนื่องจากต้องการปกป้องสุขภาพของผู้บริโภค ทั้งผู้ที่เคยทดลองใช้แล้วหรือยังไม่เคยทดลองใช้ ข้อมูลที่ผู้ผลิตและนักการตลาดอ้างว่าปลอดภัย แท้ที่จริงแล้ว ในกระบวนการที่ทำให้เกิดไอน้ำของบุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นกระบวนการที่น่าสงสัยถึงความปลอดภัย และทำให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้บริโภคมากกว่า เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดความร้อนใน Cartridges ที่บรรจุนิโคตินซึ่งเป็นสารพิษ
> งานวิจัยไม่ใช่เกิดจากความต้องการดิสเครดิตบุหรี่ไฟฟ้าของบริษัทผลิตยาสูบ (M) หรอกหรอครับเพราะการวิจัยนั้นผมว่าผมได้อ่านนะมันสนับสนุนการวิจัยโดยบริษัทยาสูบ(ยี่ห้อเครื่องใช้ไฟฟ้าP ผู้ผลิตบุหรี่ดังยี่ห้อ M) และกระบวนการเผาไหม้ในบุหรี่ไม่อันตรายมากกว่าหรอกหรอครับทั้งความร้อนที่สูงกว่ายังไม่รวมถึงสารประกอบต่างๆที่เกิดจากการเผาไหม้ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าสูดเอาไอน้ำและสาร Propylene glycol เป็นสารต้านการแข็งตัวในอุตสาหกรรม ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ จึงทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และจะได้รับนิโคตินซึ่งส่งผลให้เป็นโรคหัวใจล้มเหลว นอกจากนี้ ยังมีสารก่อมะเร็งและสารพิษอื่นๆ ที่ส่งผลต่อคนใกล้ชิดได้ด้วย ดังนั้น องค์กรรณรงค์ในอเมริกาจึงห้ามสูบบุหรี่ชนิดนี้ในสถานที่ห้ามสูบบุหรี่ตามกฎหมาย เพื่อคุ้มครองสุขภาพประชาชน
> อันนี้เห็นด้วยในทุกประการครับ บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังสมควรสูบในที่จัดไว้ให้สูบเช่นกัน เพราะไอน้ำที่เราๆพ่นออกมามันก็ยังมีสารนิโคตินเช่นกัน อันนี้ลองมาแล้วครับในไอน้ำที่เราพ่นๆออกมามีนิโคตินแน่นอนครับ (ลองพ่นใส่กระดาษทิชชู่แล้วลองเอาของที่ทดสอบสารนิโคตินจากพี่ที่รู้จัดมาลองหยดดูแล้วครับ พบมีแน่นอน เพราะฉะนั้นมันก็ควัน(ไอน้ำ)บุหรี่มือ 2 เหมือนกันครับ) แต่ไอ้สารพิษอื่นกับไอ้สารก่อมะเร็งที่ท่านกล่าวไว้นั้นยกตัวอย่างมาให้กระผมทราบบ้างซักตัว 2 ตัวได้หรือไม่ครับ และช่วยเขียนให้ครบด้วยนะครับ สาร Propylene glycol เป็นสารต้านการแข็งตัวในอุตสาหกรรม เป็นเกรดอาหารและยา แต่ถ้าในบุหรี่ผมยกตัวอย่างให้ได้เลยนะครับเป็นสิบตัว (หรือท่านจะอ่านเองก็ไอ้ที่ท่านๆเขียนไว้ข้างซองไงเยอะนะครับนั้นหน่ะ) แต่ไม่เอานิโคตินนะครับเพราะสารตัวนี้เรารู้กันดีอยู่แล้ว