หัวข้อ: รถดับกลางทาง ต้องทำอย่างไร? เริ่มหัวข้อโดย: damonshoppu ที่ มิถุนายน 17, 2022, 06:58:27 AM (https://i.imgur.com/lUHwOGn.jpg)
หนึ่งในเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ผู้ขับขี่ไม่อยากเจอ คงจะมีอาการรถดับกลางทาง หรือที่เรียกกันว่า รถวูบดับกลางอากาศ สตาร์ทไม่ติด อยู่อย่างแน่นอน ซึ่งอาการนี้เป็นปัญหาที่หลายคนอาจพบเจอกันมาบ้างไม่ว่าจะในรถเก่าหรือรถใหม่ และมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ สาเหตุที่ทำให้รถดับกลางทาง ● เครื่องยนต์ร้อนเกินไป ซึ่งในปัจจุบันรถใหม่ๆจะมีระบบป้องกัน และสัญลักษณ์ไฟที่หน้าปัด เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยในกรณีที่เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงจนเกินไป ● ปั๊มและกรองน้ำมันเชื้อเพลิงเสื่อมสภาพ ซึ่งปั๊มนั้นเป็นสิ่งที่จะต้องทำการเปลี่ยนทุกๆ 5 ปี และต้องมีการกรองน้ำมันเชื้อเพลิงทุกๆ 20,000-25,000 กิโลเมตร เพราะหากไม่มีการเปลี่ยนจะทำให้เกิดการอุดตัน สตาร์ทติดยาก เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น รวมไปถึงอาการรถดับกลางทางเช่นกัน ● ขั้วลบของแบตเตอรี่ (https://aftermarket.schaeffler.co.th/th/battery)หลวม ซึ่งจะมีไฟเตือนขึ้นที่หน้าปัด โดยควรหมั่นตรวจเช็คว่ามีขี้เกลือที่ขั้วแบตเตอรี่รถยนต์ (https://aftermarket.schaeffler.co.th/th/battery)หรือไม่ สายหลุดหรือหลวมหรือไม่ เพื่อป้องกันอาการรถดับกลางทางที่อาจเกิดขึ้น ● หัวฉีดมีปัญหา ซึ่งจะส่งผลให้กำลังเครื่องยนต์ตก จนทำให้เครื่องดับได้ อาจเกิดจากการมีคราบสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในหัวฉีด ทำให้ไม่สามารถจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้ หรืออาจมีการแตก รั่ว จนน้ำมันท่วมห้องเผาไหม้ และทำให้เครื่องยนต์จมจนไม่สามารถใช้งานได้ ● หัวเทียนและคอยล์จุดระเบิดเสื่อมสภาพ เก่า มีการขาดใน หรือเขี้ยวห่าง ก็สามารถทำให้เครื่องดับได้เช่นกัน ● ลิ้นผีเสื้อสกปรก ซึ่งจะทำให้รอบเดินเบาต่ำ จนเครื่องยนต์สามารถดับได้ โดยจะต้องทำการล้างลิ้นปีกผีเสื้อในทุกๆ 50,000 กิโลเมตร เพื่อช่วยป้องกันอาการรถดับกลางทาง วิธีแก้ไขอาการรถดับกลางทาง 1. สิ่งแรกที่คุณต้องทำหากเกิดปัญหารถดับกลางทาง หรือปัญหาบนท้องถนนใดก็ตาม คือ “ตั้งสติ” 2. หลังจากนั้นให้คุณทำการกดปุ่มไฟฉุกเฉิน เพื่อเป็นการแจ้งว่ารถยนต์ของคุณกำลังมีปัญหา และช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากรถคันหลังได้ 3. ห้ามทำการเหยียบเบรคกระทันหัน แต่ควรค่อยๆเหยียบเบรคและประคองรถให้ได้ เพื่อช่วยประคองรถเข้าข้างทางหรือพื้นที่ปลอดภัย และป้องกันอุบัติเหตุจากรถยนต์ที่วิ่งมาจากข้างหลัง 4. ปรับเกียร์มาอยู่ที่เกียร์ N และลองทำการสตาร์ทรถใหม่ หากสตาร์ทติดก็ถือว่าโชคดี สามารถขับขี่ไปที่ศูนย์บริการ หรืออู่ที่ใกล้ที่สุดเพื่อตรวจเช็คอย่างละเอียดก่อนเดินทางต่อ 5. หากสตาร์ทไม่ติด ให้ทำการตรวจเช็คที่ขั้วแบตเตอรี่และตัวคอยล์หัวเทียนก่อน ว่าไม่มีอาการหลุดหรือหลวม และลองสตาร์ทรถดูอีกครั้ง 6. แต่หากไม่ว่าจะทำอย่างไรก็สตาร์ทไม่ติด จะต้องทำการติดต่อศูนย์บริการหรืออู่ใกล้เคียงเพื่อนำรถยนต์ของคุณไปตรวจเช็คอย่างละเอียด หาสาเหตุ และแก้ไขอย่างตรงจุด เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์นี้อีก ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์รถดับกลางทางขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตั้งสติให้ได้และทำตามขั้นตอนที่ได้แนะนำไป หวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณเตรียมพร้อมสำหรับกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ได้นะครับ |