หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: amakusa ที่ สิงหาคม 19, 2012, 09:27:19 PM ตอนนี้อาการอยากบุหรี่เริ่มหมดไป เมื่อวาน
ไปออกงานสังคมมา ทุกคนงงว่าผมเลิกดูดแล้วเหรอเพราะเมื่อก่อน เห็นผมต้องเห็นบุหรี่ เพื่อนๆถามว่าดูดไรวะดูดีหว่ะ(แอบดีใจ) ก็บอกมันไปว่า บุหรี่ไฟฟ้า ดูดมาเลิกบุหรี่มาจะเดือนละ เพื่อนที่วัยเดียวกัน สนใจเพราะอยากเลิกเช่นกัน เมื่อวานบุหรี่ไฟฟ้าของผมทำหน้าที่ไม่ต่างอะไรกับ สาวขายบริการ มีรุ่นพี่หลายคน - ผู้ใหญ่ขอลองสูบ แต่.... พี่คนที่เค้าเลิกบุหรี่ มา 3 ปี(เพราะไปผ่าตัดมาเพราะถุงลมโป่งพอง) เค้าก็บอกผมว่า "ระวังปอดชื้นนะ" ก่อนหน้านี้เพื่อนผู้หญิงผมคนนึงก็บอกระวังปอดชื้นนะ ผมเลยอยากรู้ว่าปอดชื้นจริงเหรอ และผมไม่สามารถตอบคำถามคนที่ ถามผมแบบนั้นได้ และถ้าชื้นมันมีผลเสียไหม? ใครู้ข้อมูลว่าจริงเท็จแค่ไหนรบกวนแถลงให้ผมทราบทีครับ จะได้เอาไปบอกกับคนที่มาถามแบบนั้น (ถ้าเป็นไปได้ตอบแบบกลางๆนะคับไม่เข้าข้างไปในส่วนของบุหรี่ไฟฟ้า) ขอบคุณครับ หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: Mr. E-Cigseelz ที่ สิงหาคม 19, 2012, 09:44:54 PM ผมว่าสมาชิกลายๆ ท่าน ที่นี่ ก็คงซัดกันมาไม่น้อย โดนเฉพาะตัวผมใช้บุหรี่ไฟฟ้ามาร่วม 2 ปี ตั้งแต่ตระกูล Janty + eGo-T ออกมาใหม่ๆ โน้นแหนะครับ สมัยนั้นยังเป็นระบบใยทิชชู่เปลี่ยนตูดเอาซะส่วนใหญ่ วันนึงผมล่อแทบไม่หยุดเลยครับ ถ้าปอดชื้นจริงๆ ผมว่า ผมสูบแบบนี้ คงมีอาการบ้าแล้วล่ะครับ แต่กลับแปลกใจว่าทำไมรู้สึกดีขึ้น ยกเว้นอาการมีเลือดกำเดาออกจากจมูก เพราะจมูกแห้งเกินไปครับ
ศึกษาจากงงานวิจัยของ Dr.David Baron, Cheif Monica Hospital, USA รายงานว่า สาร Prepolyen Glycol หรือ PG ที่เป็นสารผสมในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นตัวทำให้ไอน้ำที่ระเหยออกจาบุหรี่ไฟฟ้าเเห้งไปในอากาศ โดยที่ไม่ตกเป็นละอองน้ำค้างในหลอดลมครับ สังเกตุได้จากเวลาเป่าใส่มือจะไม่รู้สึกว่าเปียกเลย เเค่รู้สึกเย็นๆ แล้วหายไปเอง ผมว่าอย่างไรแล้ว ปลอดภัยกว่าบุหรี่จริงเยอะครับ ขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆ น้องๆ ชาว ขายบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูก.com เลิกกันได้ถาวรนะคร๊าบ *กราบสวัสดี คุณพี่ Cloudian, ท่านเฮียผา, คณ Lemon Tea และ สุดหล่อThe Lumb ครับผม หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: Cloudian Shop ที่ สิงหาคม 19, 2012, 09:51:08 PM ลองอ่านนี่ดูครับ
http://xn--12cbg6esa4aavkc8fydgbb5byc3a4r1cya.com/index.php/topic,87.0.html http://xn--12cbg6esa4aavkc8fydgbb5byc3a4r1cya.com/index.php/topic,60.0.html :0028: หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: vikrom ที่ สิงหาคม 19, 2012, 10:18:54 PM http://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99&source=web&cd=2&cad=rja&ved=0CFIQFjAB&url=http%3A%2F%2Fth.answers.yahoo.com%2Fquestion%2Findex%3Fqid%3D20100324022739AAOs0Rs&ei=SwMxUJyFEsjyrQeG7YC4CQ&usg=AFQjCNHxrKMHLSvWG7I27JoL_omncRxmAA
หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: vikrom ที่ สิงหาคม 19, 2012, 10:22:26 PM ปอดชื้นหรือปอดอักเสบ ค่ะ เด็กๆ เป็นเพราะว่าปล่อยให้เป็นหวัดเรื้อรังโดยไม่มีการรักษาที่ถูกต้ อง และส่วนใหญ่คุณพ่อคุณแม่ หรือคนเลี้ยง เมื่อเห็นเด็กเล็กๆ มีน้ำมูก หรือไอ คิดว่าไม่ต้องทานยาก้อได้เด๋วก้อหายเอง แต่จากประสบการณ์คนใกล้ตัวและลูกสาว เป็นหนักขึ้นทุกทีไม่เคยหายได้เอง สุดท้ายต้องพึ่งหมอ ซึ่งถึงเวลานั้นลูกก้ออาการหนัก เสมหะลงปอดเสียแล้ว ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานจนเกิดการติดเชื้อ จะทำให้อันตรายมากๆ ค่ะ
เป็นข้อมูลหามาจากในเวบค่ะ ปอดอักเสบ หมายถึง การอักเสบของปอดซึ่งถือเป็นภาวะร้ายแรงชนิดหนึ่ง ภาษาอังกฤษเรียกว่า "นิวโมเนีย" (pneumonia) ชาวบ้านเรียกว่า " ปอดบวม " มักพบในคนที่ไม่แข็งแรง (มีภูมิต้านทานโรคต่ำ) เช่น เด็กคลอดก่อนกำหนด เด็กแฝด เด็กขาดอาหารหรือเด็กที่กินนมข้นกระป๋อง คนชรา คนเมาเหล้า คนที่เป็นโรคทางปอดเรื้อรัง (เช่น หืด หลอดลมอักเสบ ถุงลมพอง) คนที่กินสเตอรอย์เป็นประจำ อาจพบเป็นโรคแทรกซ้อนของไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ หัด อีสุกอีใส ไอกรน ฯลฯ ผู้ป่วยที่ฉีดยาด้วยเข็มสกปรก หรือพวกที่ฉีดยาเสพติดด้วยตนเอง ก็มีโอกาสติดเชื้อกลายเป็นโรคปอดบวมชนิดร้ายแรง (จากเชื้อสแตฟฟีโลค็อกคัส) ได้ สาเหตุ เกิดจากมีเชื้อโรคหรือสารเคมีเข้าไปทำให้มีการอักเสบของปอด ที่สำคัญได้แก่ เชื้อแบคทีเรีย ซึ่งพบเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของโรคนี้ ที่พบบ่อยและรักษาได้ง่ายได้แก่ เชื้อปอดบวม หรือ นิวโมค็อกคัส (Pneumococcus) ที่พบน้อยแต่ร้ายแรง ได้แก่ เชื้อสแตฟฟีโลค็อกคัส (Strephylococcus) สเตรปโตค็อกคัส (Streptococcus) เคล็บซิลลา (Klebsiella) เชื้อไวรัส เช่น หัด ไข้หวัดใหญ่ อีสุกอีใส ฯลฯ เชื้อไมโคพลาสมา (Mycoplasma pneumoniae) ซึ่งทำให้ปอดอักเสบชนิดที่เรียกว่า Atypical pneumonia เพราะมักจะไม่มีอาการหอบอย่างชัดเจน เชื้อรา พบได้ค่อนข้างน้อย แต่รุนแรง สารเคมี ที่พบบ่อยได้แก่ น้ำมันก๊าด ซึ่งผู้ป่วยสำลักเข้าไปในปอด มักจะเป็นที่ปอดข้างขวามากกว่าข้างซ้าย การติดต่อ อาจติดต่อได้ทางหนึ่งทางใดดังนี้ ก. ทางเดินหายใจ โดยการไอ จาม หรือหายใจรดกัน ข. โดยการสำลักเอาสารเคมีหรือเศษอาหารเข้าไป ในปอด ค. แพร่กระจายไปตามกระแสเลือด เช่น การฉีดยา ให้น้ำเกลือ การอักเสบในอวัยวะส่วนอื่น เป็นต้น อาการ มักเกิดขึ้นทันทีทันใดด้วยอาการไข้สูง (อาจจับไข้ตลอดเวลา)หนาวสั่น (โดยเฉพาะในระยะที่เริ่มเป็น) และหายใจหอบ ในระยะแรกอาจมีอาการไอแห้งๆ ไม่มีเสมหะ ต่อมาเสลดขุ่นข้นออกเป็นสีเหลืองสีเขียว สีสนิมเหล็กหรือมีเลือดปน ในเด็กโตและผู้ใหญ่ อาจมีอาการเจ็บแปล๊บในหน้าอกเวลาหายใจเข้าหรือเวลาไอแรงๆ บางครั้งอาจปวดร้าวไปที่หัวไหล่ สีข้างหรือท้อง ในเด็กเล็กอาจมีอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเดิน อาเจียน กระสับกระส่ายหรือชัก สิ่งตรวจพบ ไข้สูง 39 - 40 องศาเซลเซียส หน้าแดง ริมฝีปากแดง ลิ้นเป็นฝ้าหายใจตื้นแต่ถี่ๆ อาจมากกว่านาทีละ 40 ครั้ง ซี่โครงบุ๋ม รูจมูกบาน ถ้าเป็นมากๆ อาจมีอาการตัวเขียว(ริมฝึปากเขียว ลิ้นเขียว เล็บเขียว) หรือภาวะขาดน้ำ บางรายอาจมีเริมขึ้นที่ริมฝีปาก ปอดอาจเคาะทึบ (dullness) ใช้เครื่องฟังตรวจปอดอาจมีเสียงหายใจค่อย (diminished breath sound) หรือมีเสียงกรอบแกรบ (crepitation) ซึ่งมักจะได้ยินตรงใต้สะบักทั้ง 2 ข้าง อาการแทรกซ้อน อาจทำให้เป็นฝีในปอด (lung abscess) มีหนองในช่องหุ้มปอด , ปอดแฟบ (atelectasis) หลอดลมพอง, เยื้อหุ้มสมองอักเสบ , เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (pericarditis) เยื่อบุช่องท้องอักเสบ , ข้ออักเสบเฉียบพลัน , โลหิตเป็นพิษ ที่สำคัญคือภาวะขาดออกซิเจน และภาวะขาดน้ำซึ่งถ้าพบในเด็กเล็กและคนแก่ อาจทำให้ตายได้รวดเร็ว การรักษา ในรายที่เริ่มเป็น ยังไมีมีอาการหอบ ให้ดื่มน้ำมากๆ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเวลามีไข้สูง ให้ยาลดไข้และให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนนิซิลลิน , แอมพิซิลลิน , อีริโทรมัยซิน , เตตราซัยคลีน หรือ โคไตรม็อกซาโซล ถ้าไอมีเสลด ให้ยาขับเสมหะ เช่น มิสต์แอมมอนคาร์บ ถ้าอาการดีขี้นใน 3 วัน ควรให้ยาปฏิชีวนะต่อไปอีก 1 สัปดาห์ ถ้าไม่ดีขึ้นหรือกลับมีอาการหอบควรแนะนำไปโรงพยาบาล ถ้ามีอาการหอบ หรือสงสัยมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ รีบให้ยาปฏิชีวนะ แล้วส่งโรงพยาบาลด่วนหากรักษาไม่ทัน อาจตายได้ ถ้ามีภาวะขาดน้ำควรให้น้ำเกลือ ผู้ใหญ่ให้ 5% D/NSS เด็กให้ 5% D/1/2 NSS ระหว่างเดินทางไปด้วย มักจะต้องทำการตรวจโดยเอกซเรย์ปอด ตรวจเสมหะหาเชื้อที่เป็นสาเหตุ หรือเจาะเลือดไปเพาะเชื้อ และให้การรักษาโดยให้ออกซิเจน น้ำเกลือ และยาปฏิชีวนะ ซึ่งอาจให้เพนิซิลลินฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือเส้นเลือดในขนาดสูงๆ หรือยาปฏิชีวนะตัวอื่นๆ ตามแต่ชนิดของเชื้อที่พบ เช่น เชื้อนิวโมค็อกคัส มักให้เพนิซิลลิน ,เชื้อสแตฟฟีโลค็อกคัสให้คล็อกซาซิลลิน , เชื้อไมโครพลาสมาให้ อีริโทรมัยซิน หรือเตตราซัยคลีน เป็นต้น ข้อแนะนำ คนที่มีอาการไข้สูงและหอบ มักมีสาเหตุจากปอดอักเสบ แต่ก็อาจมีสาเหตุจากโรคอื่นๆได้ โรคนี้ แม้ว่าจะมีอันตรายร้ายแรง แต่ถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็มักจะหายขาดได้ ดังนั้นหากสงสัยผู้ป่วยโรคนี้ ควรรีบให้ยาปฏิชีวนะ แล้วส่งโรงพยาบาลทันที การป้องกัน ปฏิบัติเช่นเดียวกับการป้องกันไขัหวัด อย่าฉีดยาด้วยเข็มและกระบอกฉีดยาที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ อย่าอมน้ำมันก๊าดเล่น ควรเก็บน้ำมันก็าดให้ห่างมือเด็ก เมื่อเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หัด อีสุกอีใส ฯลฯ ควรดูแลรักษาเสียแต่เนิ่นๆ ป้องกันมิให้เป็นโรคทางปอดเรื้อรัง (หลอดลมอักเสบ ถุงลมพอง) ด้วยการไม่สูบบุหรี่ Edited by bangbang - 10 ก.ย. 2008 at 17:34 หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: amakusa ที่ สิงหาคม 19, 2012, 10:25:39 PM ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆครับ
หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: vikrom ที่ สิงหาคม 19, 2012, 10:29:50 PM แต่ที่น่าจะจำเป็นมาก ผมว่าคือการมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เราใช้ดูด และแทงค์เก็บน้ำยา
ต้องมั่นล้างเลยครับ ไม่งั้นเราจะได้รับเชึ้อโรคที่สะสมเข้าสู่ร่างกาย หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: amakusa ที่ สิงหาคม 19, 2012, 10:42:21 PM แต่ที่น่าจะจำเป็นมาก ผมว่าคือการมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เราใช้ดูด และแทงค์เก็บน้ำยา ต้องมั่นล้างเลยครับ ไม่งั้นเราจะได้รับเชึ้อโรคที่สะสมเข้าสู่ร่างกาย ล้างะตอมและแทงค์ใช่ไหมครับ หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: vikrom ที่ สิงหาคม 19, 2012, 10:55:54 PM แต่ที่น่าจะจำเป็นมาก ผมว่าคือการมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เราใช้ดูด และแทงค์เก็บน้ำยา ต้องมั่นล้างเลยครับ ไม่งั้นเราจะได้รับเชึ้อโรคที่สะสมเข้าสู่ร่างกาย ล้างะตอมและแทงค์ใช่ไหมครับ ล้างอะตอมเพื่อให้เผาไหม้ได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย ส่วนแทงค์ป้องกันเชึ้อโรคครับเพราะบ้างที่เราพกพาไปไหนต่อไหน แล้วก็หยิบดูดแล้วก็วาง ต้องเจอสิ่งสกปรกแน่นอน เหมือนเรื่องที่เค้ารณรงค์ให้ล้างมือบ่อยๆอ่ะครับ หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: Lemon Tea ที่ สิงหาคม 20, 2012, 01:50:58 AM โอ้ เจอกระทู้นี้ ข้อมูล ก็ครบแล้ว มีหลาย ๆ เรื่องที่ผมก็พึ่งทราบ
ต้องขอขอบคุณ ทั้งพี่ amakusa ที่มาช่วยจุดประกายให้พวกเราทราบ และต้องขอขอบคุณพี่ ๆ และเพื่อน ๆ สามาชิกทุกท่านที่เข้ามาช่วยตอบนะครับ จากข้อมูลอ้างอิงเรื่องปอดชื้น สรุปจากตัวเข้าใจของผมเอง (ไม่รู้ว่าจะสรุปถูกใหม) สรุปได้ว่า เสมหะคือสัญญาณ ที่คุณจะมีโอกาศเป็นโรคปอดชื้น หากไม่มีเสมหะ โอกาศที่จะเป็นโรคปอดชื้น แทบจะไม่มี ความเข้าใจของผมเองคนเดียวนะครับ ต้องหมายเหตุบ่อย ๆ :0006: ซึ่งจากที่พวกเราใช้บุหรี่ไฟฟ้า อาการ 90% จะมีปัญหาคอแห้ง ปัญหาใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วมีเสมหะ ขอบอกว่ายังไม่เคยเจอ สรุปตามความเข้าใจของผมเองอีกเช่นเคย ว่า "บุหรี่ไฟฟ้า ไม่" มีเสมหะ ====> สัญญาณ ของโรคปอดชื้น ไมีมีเสมหะ ====> โอกาศเป็นปอดชื้น แทบจะไม่มี สูบบุหรี่ไฟฟ้า ===> คอแห้ง ไม่มีเสมหะ สูบบุหรี่ไฟฟ้า ===>ไม่เป็นโรคปอดชื้น :0017: หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: amakusa ที่ สิงหาคม 20, 2012, 09:49:52 AM ขอบคุณทุกท่านนะครับ สำหรับข้อมูลครับ
เป็นประโยชน์สุดๆ ทีนี้จะได้ไปตอบคำถามคนที่มีความเชื่อวานสูบบหรี่ไฟฟ้าแล้วปอดชื้นได้แล้วหล่ะ หักกันไปข้าง อิอิ :0019: :0019: :0019: หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: sodanum ที่ สิงหาคม 21, 2012, 01:30:50 AM ปอดอักเสบ หมายถึง การอักเสบของปอดซึ่งถือเป็นภาวะร้ายแรงชนิดหนึ่ง ภาษาอังกฤษเรียกว่า "นิวโมเนีย" (pneumonia) ชาวบ้านเรียกว่า " ปอดบวม " คุณพ่อผมเสียชีวิตด้วยโรคนี้ เมื่อ 10 ปีก่อน ครับ หมอบอกว่าเป็น นิวโมเนีย แบบ เฉียบพลัน สิ่งที่พ่อผมทำให้เห็นตั้งแต่จำความได้.. - สูบบุหรี่ จัด - ดื่มเหล้า ทุกวัน วันละแก้วสองแก้ว กินเพียว ซดน้ำตาม - ชอบเดินถอดเสี้อไปไหนมาไหน - นอนห้องแอร์ - พออายุเยอะขึ้นฟันน้อยลง เวลาทานข้าวจะ สำลักบ่อยๆ ก่อนเสียชีวิต - ขับรถไปหาผมที่มหาวิทยาลัย (ผมเรียนต่างจังหวัด) - กลับมาเป็นไข้ ประมาณ 3 วัน - เริ่มดีขึ้น เดินเล่นไปไหนมาไหนได้ แต่ ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ ประมาณ 2 วัน อาการไข้กลับมา ไม่ยอมไปหาหมอ บอกไม่เป็นไรมาก ข้าวไม่ค่อยกิน คุณแม่พาไปโรงพยาบาล ระหว่างนั่งรถยังพูดรู้เรื่องดี เหมือนปกติ - ถึงโรงพยาบาล หมอบอกปอดหายไปข้างหนึ่ง(น้ำท่วมปอด) เข้า ICU ใส่เครื่องช่วยหายใจ หลังจากนั้น ช๊อก หมดสติ และท่านก็จากไปเหลือไว้แต่ความทรงจำ........................... :0019: คุณพ่อผมไม่ได้ตายเพราะโรคถุงลมโป่งพอง หรือ มะเร็งปอด หรือ ตับแข็ง ที่เป็นโรคยอดฮิตของคน ที่สูบจัด ดื่มจัด แต่ ทั้งเหล้า บุหรี่ มันทำให้ร่างกายอ่อนแอ จนเสียชีวิตเพราะ นิวโมเนีย มันฆ่าเราได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม :0003: ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ตอนรุ่นๆ เหล้าบุหรี่ผมจัดเต็ม ถือคำขวัญ " อวกไม่นับหลับเป็นแพ้" นอน ICU หนึ่งคืน หลังจากนั้นได้สติ เหล้าแถบไม่แตะ แต่บุหรี่จัดเต็ม เหมือนเดิม พยายามหลายครั้งไม่เป็นผล(ใจไม่แข็งพอ) ตอนนี้ฝากความหวังไว้กับบุหรี่ไฟฟ้า เริ่มต้นได้ดีครับ ใจยังแข็งอยู่ และจะพยามยามต่อไป.... :0007: หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: Lemon Tea ที่ สิงหาคม 21, 2012, 03:25:12 AM นับถือพี่ sodanum มากครับ
อ่านประวัติแล้วขนลุก :0006: ของผมนับว่ายังดี ที่ถึงแม้จะดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มาตั้งแต่ ม.ปลาย จนถึงเวลาที่มาใช้ ไฟฟ้าเต็มตัว ก็ 18 ปี แต่ก็ยังนับว่าน้อยกว่าพี่เยอะ พี่ก็ยังเอาชนะ ทั้งเหล้า ทั้งบุหรี่ได้ นับถือ ๆ หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: vikrom ที่ สิงหาคม 21, 2012, 07:28:33 AM ก้าวแรกเป็นก้าวสำคัญครับ และจะนำสู่ความสำเร็จได้ตามที่ตั้งใจครับ
หัวข้อ: ปอดชื้น!!!??? จริงหรืิอ? เริ่มหัวข้อโดย: amakusa ที่ สิงหาคม 21, 2012, 09:14:07 AM เสียใจด้วยครับคุณsodanum
เป็นกำลังให้เลิกบุหรี่ได้ไวไวครับ ผมอยากเลิกกินเบียร์อ๊าาาาาก :0029: |