ขายบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูก

E-Cigarette E-Liquid Experience ขายบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูก.com => พูดคุยเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า => ข้อความที่เริ่มโดย: beets ที่ พฤษภาคม 01, 2013, 11:16:14 PM



หัวข้อ: เก็บแบตยาวๆเก็บยังไงดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: beets ที่ พฤษภาคม 01, 2013, 11:16:14 PM
คือจะเอาegoเก็บเข้ากรุเก็บยังไงดี ยัดตู้เย็นดีไหมครับ ไม่ค่อยได้ไช้อะ


หัวข้อ: Re: เก็บแบตยาวๆเก็บยังไงดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: vikrom ที่ พฤษภาคม 01, 2013, 11:18:14 PM
คือจะเอาegoเก็บเข้ากรุเก็บยังไงดี ยัดตู้เย็นดีไหมครับ ไม่ค่อยได้ไช้อะ
ชาร์ตไฟเข้าไว้ไม่เกิน 40%  บางตำราว่าให้มีสัก 3.7v
ถ้ามากเกินเก็บนาน ลิเธียมไอออนแบต มันจะบวม


หัวข้อ: Re: เก็บแบตยาวๆเก็บยังไงดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: geem ที่ พฤษภาคม 02, 2013, 07:14:03 AM
ผมเคยฟังมาจากพ่อค้าเลม่อนทรี ประมาณว่าชาร์จไฟไว้แปดสิบเปอร์เซนต์ เก็บไว้สามเดือนเอามาชาร์จซํ้า เพราะว่าแบตแค่ตั้งไว้เฉยๆพอเวลาประจุมันจะลดลงเรื่ีอยๆทำให้โวลต์ค่อยๆลดลงเมื่อเวลาผ่านไฟ ถ้ามันลดเกินกว่า(เท่าไหร่จำไม่ได้) มันจะชาร์จไฟไม่เข้า เพราะฉะนั้นจึงต้องเอาจากกรุมาชาร์จทุกสามเดิอนให้มีไฟในแบต


หัวข้อ: Re: เก็บแบตยาวๆเก็บยังไงดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: smokebat ที่ พฤษภาคม 02, 2013, 07:23:05 AM
ขายเลยครับ เผื่อคนอยากได้


หัวข้อ: Re: เก็บแบตยาวๆเก็บยังไงดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon Tea ที่ พฤษภาคม 02, 2013, 11:20:10 AM
ผมเคยแจ้งไว้ว่าให้ชาร์ตทิ้งไว้ ที่ 80%  
แต่จากการหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าชาร์ตเก็บไว้ที่ 40% จะดีที่สุดครับ




และเมื่อคายประจุจน ต่ำกว่า 3.2V  Cell ถ่านจะเสีย และเก็บไฟไม่อยู่ครับ
ถ่านเต็มที่ 4.2V  และ แบต Ego จะหยุดจ่ายไฟเมื่อถึง 3.4V

จากการประมาณ แบต เต็ม 100%  ==> 4.2V
                   แบต หมด 0%    ==> 3.2V
                   แบต 40%        ===> ประมาณ 3.6V-3.7V ตามที่พี่วิกรม แจ้งเข้าใจว่าน่าจะถูกต้องแล้วครับ


4. ได้ยินว่าชาร์ตไฟ 40% แบตจะอยู่ได้นานกว่าจรึงรึเปล่า
               สำหรับแบตเตอรี่แบบ lithium ถ้าชาร์ตไฟที่ 40% แล้วเก็บเอาไว้โดยไม่ใช้งานเป็นระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป ตัวแบตจะเสื่อมน้อยกว่าการชาร์ตไฟที่ 100% แล้วเก็บไว้นาน 1 ปีขึ้นไป แต่สำหรับแบตเตอรี่ที่ไม่ได้เก็บไว้นานเกิน 1 ปี หรือแบตเตอรี่ที่ใช้งานตามปกติ(ไม่ได้เก็บเข้ากรุ) อัตราการเสื่อมของแบตเตอรี่ไม่ว่าจะมีไฟที่ 40% หรือ 100% นั้นแทบจะไม่ต่างกัน
               สรุปว่าข้อความข้างต้นเป็นจริงเฉพาะแบตเตอรี่ lithium ที่เก็บไว้นานๆโดยไม่ใช้งาน และในการเก็บรักษาก็อย่าลืมเก็บไว้ในที่เย็นๆนะ เพราถ้าเก็บไว้ในที่อากาศร้อนจะเร่งให้แบตเสื่อมเร็ว


สรุปสุดท้ายด้วยคำแนะนำสั้นๆ สำหรับแบตเตอรี่ lithium ดังนี้

 1. พยายามหลีกเลี่ยงการใช้แบตเตอรี่จนหมดแล้วค่อยชาร์ต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด discharge rate ในอัตราที่สูง (ใช้ไฟเยอะในเวลาอันสั้น) ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เช่น กรณีที่ต้องการใช้งานเครื่องหนักๆ(กินแบตฯเยอะๆ) ก็ควรใช้แค่ช่วงเวลาไม่นาน และไม่ควรใช้จนแบตหมด ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆให้หาโอกาสชาร์ตไฟเป็นระยะๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิด discharge rate ในอัตราที่สูงได้
 และที่สำคัญที่สุดคือการชาร์ตบ่อยๆ จะช่วยป้องกันการลืมชาร์ตไฟ ซึ่งถ้าหากปล่อยให้แบต lithium ไฟหมดเป็นเวลานานแบตจะเสีย ไม่สามารถชาร์ตไฟได้อีก

 2. ระลึกไว้เสมอว่าแบตฯแบบ lithium ความร้อนมีผลต่อการเสื่อมมากกว่ารูปแบบการชาร์ตไฟ ดังนั้นพยายามดูแลอย่าให้แบตฯร้อน จะได้ผลดีกว่ามัวกังวลเรื่องชาร์ตบ่อย ชาร์ตมาก ชาร์ตน้อย

 3. เก็บแบตเตอรี่ไว้ในที่เย็นๆ ถ้าจำเป็นจะต้องเก็บ Notebook ไว้ในรถที่จอดตากแดด ก็ควรถอดแบตเตอรี่แยกติดตัวออกมาด้วย จะช่วยให้แบตฯเสื่อมช้าลง

 4. ถ้าจำเป็นจะต้องเก็บแบตไว้เป็นเวลานาน โดยไม่ได้ใช้งาน ให้ชาร์ตไฟไว้ที่ประมาณ 40% ของความจุ แล้วเก็บไว้ในที่เย็นๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้

 5. ไม่ควรซื้อแบตเตอร์แบบ lithium มาเก็บไว้เผื่อใช้งาน เพราะแบตแบบ lithium มีอายุการเสื่อมสภาพนับจากวันผลิต(ไม่ใช่วันที่ใช้นะ) ดังนั้นถ้าเก็บไว้นานโดยไม่ใช่มันก็จะเสื่อมไปเองได้ และเช่นเดียวกันกับการเลือกซื้อแบตแบบ lithium ไม่ควรซื้อแบตฯแบบเก่าเก็บ เพราะซื้อมาแล้วใช้ได้ไม่นานแบตฯมันจะเสื่อมตามอายุของมันเอง

http://www.lukkidthai.com/News/news33.html (http://www.lukkidthai.com/News/news33.html)

ขออนุญาติ เพิ่มเติมครับ

หลายคนคงเคยได้ยินว่าต้องชาร์ตแบตเตอรี่ครั้งแรกเท่านั้นเท่านี้ชั่วโมงแล้วจึงจะเริ่มใช้งานได้ หรือว่าต้องหมั่นชาร์ตบ่อยๆ หรือไม่ก็ใช้ให้ไฟหมดก่อนแล้วค่อยชาร์ต ซึ่งข้อความทั้งหมดนี้ก็มีข้อจริงและเท็จปนๆกัน อันที่จริงแล้วสำหรับแบตเตอรี่แบบ lithium (ย้ำว่าแบบ lithium เท่านั้น) จะชาร์ตอย่างไรก็ได้ไม่มีผลต่ออายุการใช้งาน

 ข้อมูลตรงนี้เป็นที่ยืนยันจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ(ทั้งที่อ้างอิงไว้ข้างล่าง และที่อื่นๆ) มีใจความตรงกันว่า การชาร์ตมาก-ชาร์ตน้อย ชาร์ตนาน ชาร์ตถี่ ชาร์ตบ่อย มีผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่น้อยมาก (พูดง่าย ๆ ไม่มีผลต่ออายุแบตเลย)  ส่วนข้อความข้างต้นที่ยกมานั้นเป็นคำแนะนำสำหรับแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆที่ไม่ใช่ lithium